เสียงอันไพเราะของ Andrea Bocelli ลอยฟุ้งไปในอากาศราวกับฝันที่เป็นจริง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา สตาร์ tenor ชาวอิตาลีผู้โด่งดังได้มอบโอกาสพิเศษให้แฟนเพลงชาวไทยได้ร่วมสัมผัสความอลังการของเสียงร้องอันทรงพลังในคอนเสิร์ต “Bocelli Serenades Bangkok” ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโรแมนติกและอบอุ่น ผู้ชมต่างเฝ้ารอ anticipation ระทึกขวัญเพื่อได้ยินเสียงร้องอันไพเราะของ Bocelli นับตั้งแต่ประตูเปิด
คอนเสิร์ตเริ่มต้นด้วยเพลง “Con te partirò” (Time to Say Goodbye) ที่ทำให้ผู้ชมตะลึงในความงามและอ่อนโยนของเสียงร้อง โมเมนต์นี้ราวกับเวลาหยุดนิ่ง ผู้คนต่างซึมซับในน้ำเสียงที่ไพเราะจนต้องมีการปรบมืออย่าง thunderous
Bocelli ขึ้นเวทีด้วยรอยยิ้มอบอุ่นและทักทายแฟนเพลงด้วยภาษาท้องถิ่น “สวัสดีไทยแลนด์” ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมอย่างมาก
หลังจากนั้น คอนเสิร์ตดำเนินไปอย่างราบรื่น บ็อกเซลลี่ได้ร้องเพลงดังของเขาอีกหลายเพลง รวมถึง “Nessun Dorma” จากโอเปร่า Turandot และ “Mascagni: Intermezzo” ซึ่งทำให้ผู้ชม भावซาบซึ้ง
นอกจากเสียงร้องอันทรงพลังแล้ว Bocelli ยังสร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงด้วยการเล่าเรื่องราวและอธิบายถึงความหมายของแต่ละเพลงอย่างน่าสนใจ และยังมีช่วง interlude ที่เขาร่วมเล่นเปียโนอีกด้วย
เพลงที่ร้อง | อัลบั้ม |
---|---|
Con te partirò (Time to Say Goodbye) | Si |
Nessun Dorma | Turandot |
Mascagni: Intermezzo | Cavalleria Rusticana |
Bocelli ยังได้เชิญนักร้องไทยชื่อดัง “ศักดา พัทthanes” ขึ้นเวทีร่วมร้องเพลง “รักเธอตลอดไป” (Forever Love) ซึ่งเป็นเพลงที่ Bocelli คัดสรรมาเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย
คอนเสิร์ตจบลงด้วย encore song “Ave Maria” ที่ทำให้ผู้ชมทั้งหมดยืนขึ้นพร้อมร้องตาม
Bocelli Serenades Bangkok เป็นคืนแห่งความทรงจำอันแสนวิเศษ Bocelli ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นศิลปินที่ไม่เพียงแต่มีเสียงร้องอันยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับแฟนเพลงได้อย่างลึกซึ้ง
หลังจบคอนเสิร์ต ผู้ชมต่างออกจากสถานที่ด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ Bocelli Serenades Bangkok ถือเป็นงานดนตรีระดับโลกที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการบันเทิงไทย
Bocelli Beyond the Stage: A Look into the Life of a Musical Icon
Andrea Bocelli ไม่ใช่เพียงแค่ศิลปินผู้มีเสียงร้องอันไพเราะเท่านั้น ชีวิตของเขายังเต็มไปด้วยเรื่องราวและความท้าทายที่น่าสนใจ
Bocelli เกิดมาในครอบครัวชาวนาในอิตาลี เมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1958 เขาตาบอดตั้งแต่อายุ 12 ปี เนื่องจากโรคเยื่อบุสมองอักเสบ แต่ความสูญเสียทางสายตากลับไม่เคยปิดกั้นความฝันในการเป็นนักร้อง
Bocelli เริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่ยังเด็ก และได้แสดงความสามารถด้านการร้องเพลงอย่างโดดเด่น เขาได้รับการยอมรับว่ามีเสียง tenor ที่ทรงพลังและไพเราะ
หลังจากสำเร็จการศึกษา Bocelli ทำงานเป็นทนายความ แต่อาชีพนี้ไม่สามารถเติมเต็มความฝันของเขาได้ ในที่สุด Bocelli ก็ตัดสินใจหันมาสู่เส้นทางดนตรีอย่างเต็มตัว
อัลบั้มแรกของ Bocelli “Il Mare Calmo Della Sera” ออกจำหน่ายในปี 1994 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
Bocelli กลายเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จระดับโลก เขาได้บันทึกอัลบั้มเพลงมากมาย ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ และแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก
Bocelli ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถพิเศษของเขา
Beyond the Music: Bocelli’s Philanthropic Endeavors
นอกจากการเป็นนักร้องระดับโลกแล้ว Bocelli ยังเป็นบุคคลที่ทุ่มเทเพื่อสังคม เขาได้ก่อตั้งมูลนิธิ “Andrea Bocelli Foundation” เพื่อช่วยเหลือผู้พิการและเด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษา
Bocelli เชื่อว่าดนตรีมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน และเขาต้องการให้ทุกคนได้รับโอกาสในการเข้าถึงดนตรี
The Encore: What’s Next for Bocelli?
หลังจาก “Bocelli Serenades Bangkok” คอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในเส้นทางการดนตรีของ Bocelli
แฟนเพลงทั่วโลกต่างคาดหวังผลงานและการแสดงต่อไปของเขา Bocelli ยังคงทุ่มเทในการร้องเพลงและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ
ไม่ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
Bocelli ก็จะยังคงเป็นศิลปินที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก ด้วยเสียงร้องอันไพราพระ และจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่